Yayoi Kusama Museum by Kume Sekkei

วันนี้ขอพาไปชมงาน museum ของศิลปินหญิงญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคนหนึ่ง นั่นคือ Yayoi Kusama เจ้าของผลงานประติมากรรมฟักทองลายจุดนั่นเองครับ museum แห่งนี้นั้นก่อตั้งโดยมูลนิธิของเธอเอง และก็ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียวใกล้ๆกับสตูดิโอ และโรงพยาบาลจิตเวชที่พักอยู่มากว่า 40 ปี
.
งานนี้ได้รับการออกแบบโดยบริษัท Kume Sekkei โดยแนวความคิดในการออกแบบที่เรียบง่าย คือการนำเอากล่องที่มีกระจกด้านหนึ่ง 5 กล่องมาวางซ้อนทับกัน และแต่ละชั้นก็จะหมุนด้านที่เป็น
กระจกไปเรื่อยๆ โดยชั้นแรกของอาคารจะเป็นส่วน lobby และร้านขายของที่ระลึก ชั้น 2 -3 เป็นส่วน gallery ชั้น 4 จะเป็นส่วนแสดงงาน installation และชั้น 5 เป็นส่วนห้องสมุดและ outdoor gallery
ตรงผนังกระจกด้านหน้า museum ก็ออกแบบให้เป็น pattern ลายจุดเอกลักษณ์ของ Kusama เลย ท่านใดที่สนใจจะไปเยี่ยมชมจะต้องจองตั้วจากทางเว็บไซท์เขาก่อนนะครับ และต้องกำหนดว่าจะไปกี่โมง ไปซื้อตั๋วตรงที่นั่นเลยไม่ได้เพราะ museum เขาค่อนข้างจะเล็ก เลยต้องจำกัดจำนวนคนเข้าชม (ถ้าสนใจเข้าไปจองตั๋วที่เว็บเขาได้ ที่นี่ ครับ)
บริเวณภายในส่วน lobby และขายของที่ระลึก
คำกล่าวเกี่ยวกับ museum นิดหนึ่งจาก Yayoi Kusama
การออกแบบทางสัญจรของ museum จะต่างไปจากที่อื่นบ้างตรงที่ อันนี้เขาจะให้เดินขึ้นบันไดไปชม gallery ด้านบนเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด แล้วค่อยขึ้นลิฟท์กลับลงมาที่ชั้น 1 ประมาณว่าเป็นทาง one way เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยเนื่องจากบันไดค่อนข้างจะแคบ
บันได้ไปสู่ gallery ชั้นสอง
มองย้อนกลับมาตรง lobby และเนื่องจากว่าเขาไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปตรงชั้น 2 กับชั้น 3 ถ้าสนใจจะดูรูปของชั้นนี้เขาไปดูได้ ที่เว็บนี้ ครับ
โถงบันไดทางขึ้นจาก gallery ชั้น 3 มาชั้น 4
ชั้น 4 ตรงส่วน installation gallery เป็นบันไดเรืองแสงลายจุดที่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ กับกระจกเงา ซึ่งทำให้ดูเหมือนเป็นบันไดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
โถงบันไดชั้น 4 ไปสู่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ตรงนี้จะมี skylight กระจกฝ้าด้านบนซึ่งเป็นบริเวณนั่งพักชมวิว
มองย้อนกลับมาตรงโถงบันได
บริเวณส่วนที่เป็นห้องสมุด
โถง outdoor gallery
บริเวณนั่งพักชมวิวเมืองโตเกียว
ภายในโถงลิฟท์ก็ทำให้เป็นคล้ายๆงานหนึ่งของ Kusama ที่เป็นห้องกระจกรอบด้าน ไว้ให้คนถ่ายเซลฟี่กันก่อนที่จะออกจาก museum
งานนี้ก็นับว่าเป็นงานที่เรียบง่ายแต่น่าสนใจงานหนึ่ง ถ้าผู้อ่านชื่นชอบงานของ Kusama ก็น่าจะแวะชม museum แห่งนี้ถ้ามีโอกาสครับ